ต้นไม้ สิงคโปร์ ไม่ว่ากี่ครั้งที่ผู้เขียนได้ไปเยือนสิงคโปร์ ก็ต้องประทับใจทุกครั้งกับต้นไม้ใหญ่ริมทางและความเขียวของเมืองที่เป็นลายเซ็นของสิงคโปร์ เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่ต้นไม้ใหญ่ แม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวก็ยังคงไว้ซึ่งหัวใจสีเขียว ทั้งต้นไม้ประดิษฐ์ที่อวดโอ่การผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและธรรมชาติเช่นที่ Gardens by the Bay หรือเรือนกระจกทันสมัยที่ไม่มีใครเหมือนอย่าง Flower Dome และ Cloud Forest
Gardens by the Bay ต้นไม้ สิงคโปร์ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของสิงคโปร์
ต้นไม้ สิงคโปร์ ล่าสุด สิงคโปร์ก็ทำให้โลกตะลึงอีกครั้งเมื่อยกป่ามาอยู่กลางห้าง Jewel Changi เชื่อมต่อกับสนามบินนานาชาติที่นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะมาเปลี่ยนเครื่องบิน หรือต้องการพักผ่อนในสิงคโปร์ต้องหยุดแวะชม
ย้อนกลับไปเมื่อราว 50 ปีก่อน สิงคโปร์เป็นเพียงประเทศเล็กๆ ที่ไร้ทรัพยากร อดีตหัวเมืองอาณานิคมและเมืองท่าสำคัญทางตะวันออกไกลของสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ได้รับอิสรภาพและเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซีย ก่อนจะแยกตัวอย่างไม่เต็มใจนัก และกลายเป็นสาธารณรัฐสิงคโปร์ เมื่อ พ.ศ. 2508
ประวัติศาสตร์ความเขียวของสิงคโปร์เริ่มต้นจากติดลบ ป่าทั่วประเทศถูกถางเพื่อรองรับเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ชาวสิงคโปร์ต้องการลืมตาอ้าปาก เร่งรัดการเติบโตทางเศรษฐกิจให้รวดเร็วที่สุด ประเทศสิงคโปร์ในขณะนั้นจึงไม่ต่างจากสวนสวรรค์ของมลภาวะ น้ำในแม่น้ำขุ่นโสโครก และการพัฒนาเมืองที่มุ่งสู่การเป็นป่าคอนกรีตโดยไม่สนใจสิ่งแวดล้อม
ก่อร่างสร้างสีเขียวในเมืองคอนกรีต
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 ลี กวน ยู เปิดเผยวิสัยทัศน์ของเขาเรื่อง ‘เมืองในสวน’ ซึ่งเปลี่ยนสิงคโปร์ให้กลายเป็นเมืองสีเขียว สภาพแวดล้อมที่สะอาดและชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับผู้คน ภาพลักษณ์ของสิงคโปร์คือสีเขียวและสะอาด ในฐานะที่เป็นเมืองที่มีการจัดการที่ดีซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวและเงินตราต่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในเวลานั้น สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีสลัมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุณภาพชีวิตตกต่ำ รายได้เฉลี่ยต่ำ ตามรูปแบบการพัฒนาจากโลกตะวันตก รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความเป็นอยู่และที่อยู่อาศัย สำหรับสภาพแวดล้อม เช่น สวนสาธารณะและพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจขนาดใหญ่ เป็นสิทธิ์ที่มาพร้อมกับความมั่งคั่งในภายหลัง แต่รัฐบาลสิงคโปร์ไม่มีความตั้งใจที่จะทำให้ประเทศกลายเป็นป่าคอนกรีต มีการบันทึกการประชุมคณะรัฐมนตรีบางส่วน
“รัฐบาลได้ลงทุนในหลายภาคส่วน (อุตสาหกรรม การพัฒนาเมือง และที่อยู่อาศัย) เพื่อการพัฒนาในสิงคโปร์ แต่การขาดความเขียวขจีในภูมิทัศน์คอนกรีตไม่ได้รับการสนับสนุน” ขั้นตอนแรกในการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในสิงคโปร์คือการจัดระเบียบเมืองและสร้างกฎที่เข้มงวดสำหรับเมืองที่สะอาด แม้ว่าสวนสาธารณะและพื้นที่ส่วนกลางจะยังคงถูกมองว่าเป็นของฟุ่มเฟือยราคาแพง เพื่อส่งเสริมความรื่นรมย์ของป่าคอนกรีต รวมถึงความเขียวขจีของบ้านเรือน เช่น ไม้เลื้อยชนิดต่างๆ จากวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง โดยเริ่มจากโครงการปลูกป่าอย่างเข้มข้น นำโดยหน่วยงานมืออาชีพด้านอุทยานและพรรณไม้ รวมถึงการนำเสนองานวันต้นไม้แห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2514 โดยเชิญชวนนักเรียน ผู้นำท้องที่ และประชาชน ร่วมปลูกต้นไม้ทั้งในที่สาธารณะและที่อยู่อาศัย
ไม้เลื้อยเป็นที่นิยมอย่างมากจนชาวสิงคโปร์เรียกสายพันธุ์ที่รัฐบาลชื่นชอบว่า ‘หม่อน (Vernonia elliptica)’ ซึ่งเป็นไม้เถาใบรูปไข่จากพม่า ‘Lee Kuan Yew’ เพราะนิยมปลูกคลุมโครงสร้างคอนกรีตในเมือง ทางหลวงและสะพาน การดำเนินการตามนโยบายนี้มีความแข็งแกร่งและขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการปฏิบัติการเมืองแห่งสวน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเป็นประธาน และพระราชบัญญัติสวนสาธารณะและต้นไม้ ซึ่งส่งเสริมการก่อสร้าง การควบคุมดูแล และการบำรุงรักษาสวนสาธารณะ รวมทั้งกำหนดทิศทางการพัฒนาเมืองในอนาคต. เช่นการบังคับทำถนนต้องจองพื้นที่ปลูกต้นไม้
ในปีเดียวกันนั้น สิงคโปร์ได้จัดตั้งกรมอุทยานและนันทนาการภายใต้กระทรวงการพัฒนา โดยมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการต้นไม้ทั้งหมดในเมือง การกำกับดูแลสวนสาธารณะและกฎหมายต้นไม้ รวมถึงการส่งเสริมและคำแนะนำเกี่ยวกับการสร้างสวนสาธารณะแห่งใหม่ในสิงคโปร์ การดูแลต้นไม้ไม่ใช่เรื่องง่าย รัฐบาลสิงคโปร์กำลังลงทุนสร้างและจ้างนักพฤกษศาสตร์มาตัดต้นไม้ รักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง อย่าให้รกหูรกตา ระวังอย่าให้การเจริญเติบโตของต้นไม้กีดขวางทางสัญญาณไฟจราจร ไฟจราจร พุ่มไม้ และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ตั้งแต่ปี 1982 ชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในอาคารสาธารณะ สวนสาธารณะได้กลายเป็นส่วนสำคัญของเมืองที่สมดุล เช่นเดียวกับโรงเรียน การขนส่งสาธารณะ ที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า แหล่งอุตสาหกรรม สะท้อนให้เห็นได้ดีที่สุดในการวางผังเมืองใหม่ พื้นที่สวนสาธารณะถูกกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของเขตเมืองใหม่ พร้อมนำเสนอวิถีชีวิตใหม่ของคนในชุมชนที่ต้องเปลี่ยนจากการใช้ชีวิตในภูมิ สู่ชีวิตแนวตั้งในคอนโดมิเนียม สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการที่เป็นของสาธารณะทั้งหมด
พิมพ์เขียวสิงคโปร์ยั่งยืน ทิศทางในศตวรรษที่ 21
ดัชนีภูมิทัศน์เขียว (Green View Index) ซึ่งประมวลหาต้นไม้จากภาพถ่ายริมถนนของ Google เพื่อคำนวณความเขียวริมทางของเมืองใหญ่ในประเทศพัฒนาแล้ว 23 เมือง ผลปรากฏว่าสิงคโปร์ถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ด้วยสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 29.3 เรียกว่าเขียวแบบค่อนเมืองเลยทีเดียว
การก้าวต่อไปของสิงคโปร์จึงไม่จำเป็นต้องโฟกัสที่การเพิ่มพื้นที่สีเขียวอีกต่อไป ดังที่พิมพ์เขียวสิงคโปร์ยั่งยืน ซึ่งประกาศเมื่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งเปรียบเสมือนยุทธศาสตร์การพัฒนาความเขียวที่เพิ่มดัชนีชี้วัดอื่นๆ ของสิงคโปร์ที่ไปไกลกว่าพื้นที่สีเขียวในเมือง
พิมพ์เขียวดังกล่าวนำเสนอไอเดียล้ำๆ ที่รัฐบาลสิงคโปร์กำลังเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง ทั้งการลดปริมาณการใช้รถใช้ถนน และเปลี่ยนรถยนต์จากน้ำมันสู่เครื่องยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการสนับสนุนให้ใช้บริการแบ่งปันรถยนต์เพื่อเดินทางอีกด้วย สิงคโปร์ยังมุ่งหน้าสู่ประเทศขยะเป็นศูนย์ตามแนวคิดเศรษฐกิจปิดวงจร (Circular Economy) ผลักดันการใช้พลังงานหมุนเวียน การมีส่วนร่วมภาคประชาชน และหลากหลายโครงการเพื่อสร้างสิงคโปร์ให้ยั่งยืน โดยมีตัวชี้วัดและรายงานความก้าวหน้าเป็นประจำทุกปี